- Details
- Category: ท่องเที่ยว
- Published: Saturday, 03 September 2016 15:00
- Hits: 3302
ทีเส็บ เปิดแผนการตลาด `ธุรกิจการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล` ปี 60 ปรับกลยุทธ์เชิงลึกเจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก
'ทีเส็บ' เปิดแผนการตลาดธุรกิจการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลปี 2560 จัดเซ็กเมนต์ใหม่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก เดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกหวังสร้างรายได้ไมซ์ได้เพิ่มขึ้น ชูแคมเปญการตลาด Meet in Style, Meet in Thailand ดึงนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากทั่วโลก พร้อมจัดงาน Industry Day 2016 แนะแนวโน้มตลาดโลกในปีหน้าต่อผู้ประกอบการไมซ์ไทย
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า จากการศึกษาเรื่องผลกระทบเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย พบว่า มูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2558 คิดเป็นจำนวน 2.2 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมไมซ์ยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 164,427 อัตรา และยังส่งผลประโยชน์เชิงปริมาณที่เกิดจากการสร้างเครือข่าย การสร้างตราสินค้าและการแบ่งปันทักษะระหว่างอุตสาหกรรม
สำหรับอุตสาหกรรมการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (MI)นั้นพบว่า ในปี 2558 มีมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจจากการดำเนินกิจกรรมของอุตสาหกรรม MI คิดเป็นจำนวน 1 แสนล้านบาท และยังส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 73,000 อัตรา นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงธุรกิจไมซ์ โดยเฉพาะในส่วนของ MIที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
ด้านภาพรวมของธุรกิจไมซ์ ในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2559 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์รวม 750,742 คน สร้างรายได้ 60,593 ล้านบาท คิดเป็นนักเดินทางกลุ่ม MI จำนวน 393,859 คน สร้างรายได้ 29,664 ล้านบาท โดยมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากอินเดียเป็นอันดับหนึ่ง รองมา คือ จีน และสิงคโปร์ โดยตลาดหลักของธุรกิจ MI คือภูมิภาคเอเชีย ตลาดรอง คือ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และโอเชียเนีย ส่วนกลุ่มตลาดใหม่ที่กำลังศึกษาข้อมูลและเริ่มสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย คือ ยุโรปตะวันออก กลุ่มประเทศ CIS (Commonwealth of Independent States) ทั้งนี้สำหรับภาพรวมแผนตลาด MI ในปี 2560 นั้น ทีเส็บกำหนดแผนตลาดธุรกิจ MI เน้นกลยุทธ์เชิงลึก แบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ตามเซ็กเมนต์หลักที่มีการใช้งบประมาณในการเดินทางและทำกิจกรรมต่อครั้งค่อนข้างสูง รวมทั้งกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายของแต่ละกลุ่ม และแนวทางการเจาะตลาดของกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้
นางสาวนุช หอมรสสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ทีเส็บ กล่าวว่า ปี60 ตลาด MI มีการกำหนดเป้าหมายใหม่เป็น 3 กลุ่มหลักที่มีคุณภาพ ดังนี้
(1)กลุ่มเมกะไซส์ ที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 2,000 รายขึ้นไป เน้น กลุ่มธุรกิจขายตรง/ ประกัน/ โทรคมนาคม/ ไอที/ ยานยนต์ โดยเฉพาะประเทศจีน/ อินเดีย และกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก
(2)กลุ่มการจัดประชุมองค์กร โดยมีลักษณะเป็นการประชุมบอร์ด ประชุมประจำปี ประชุมระดับภูมิภาค ในธุรกิจอาทิ การเงิน การธนาคาร/ ยานยนตร์/ ไอที/ โทรคมนาคม/ เภสัชภัณฑ์ มุ่งเน้นที่ประเทศญี่ปุ่น/ สิงคโปร์/ มาเลเซีย/ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
(3)กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็กแต่มีอัตราการใช้จ่ายต่อหัวสูง อาทิ ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจขายตรง/ ไอที/ โทรคมนาคม/ ยานยนต์ มุ่งเน้นที่ประเทศจีน/ สิงคโปร์/ สหรัฐอเมริกา/ ญี่ปุ่น/ อินเดีย/ ออสเตรเลีย และยุโรป
นายนพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของ 2016 GBTA Global BTI Outlook ที่สำรวจภาพรวมการเติบโตของประเทศต่างๆ ในโลกของการใช้งบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2559-2563) คาดว่า ประเทศที่จะเติบโตสูงได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ตุรกี และจีน ส่วนประเทศที่เติบโตในระดับปานกลาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจภาพรวมนี้ทำให้มองเห็นโอกาสเติบโตของบางประเทศในเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของประเทศไทย
" ทีเส็บและผู้ประกอบการจึงต้องร่วมกันปรับแผนการดำเนินงานให้พร้อมที่จะรอบรับการเติบโตดังกล่าวนี้ โดยตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในปี 2560 ด้วยจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,109,000 คน สร้างรายได้ 101,000 ล้านบาท" นายนพรัตน์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย.